logo blog.kpping.me

ชนิดคำสั่งซื้อขายต่าง ๆ (Limit, ATO, ATC, MP, MP-MKT, MP-MTL) ในโปรแกรมซื้อขายหุ้น Streaming

โปรแกรม Streaming เป็นโปรแกรมพื้นฐานสำหรับทำการซื้อขายหุ้นด้วยตัวเอง แต่ถึงจะบอกว่าพื้นฐาน ก็ถือว่าเข้าใจยากสำหรับผู้เริ่มใช้งาน (อาจจะเป็นแค่ผมก็ได้ 555) หลาย ๆ บทความก็อ่านแล้วมึน ๆ โดยเฉพาะชนิดคำสั่งซื้อขาย (Order Type) วันนี้ผมเลยจะมาจดสรุปความหมายและวิธีใช้งานในแบบของผมให้อ่านกันครับ

order type in streaming menu

รูป: ชนิดคำสั่งซื้อขาย

ในหน้าต่าง Buy/Sell ตรงข้าง ๆ ช่อง Price จะมีตัวเลือกชนิดคำสั่งซื้อขายอยู่ ซึ่งค่าเริ่มต้นจะเป็น Limit เราสามารถกดเพื่อเปลี่ยนชนิดได้

Limit

ชนิดคำสั่งซื้อขายแบบ Limit จะทำงานคู่กับช่องราคา ( เรากำหนดราคาเอง)

หากเราใส่ราคา 100 บาท ในช่อง Price และ เลือกแบบ Limit ระบบจะไปตั้งคำสั่งรอซื้อขายที่ราคานั้นให้เรา

คำสั่งจะ Match ถ้า

  1. ราคา Bid แถวแรกเท่ากับ 100 บาท (สำหรับการซื้อ) หรือ ราคา Offer แถวแรกเท่ากับ 100 บาท (สำหรับการขาย)
  2. เมื่อถึงคิวเรา (บางทีราคาเท่ากับที่เราตั้งไว้แต่ไม่ Match ซักที ก็เพราะระบบยังมาไม่ถึงคิวเราครับ)

หากไม่ Match จนตลาดปิด ระบบจะยกเลิกคำสั่งให้เราโดยอัตโนมัติครับ

ATO

ชนิดคำสั่งซื้อขายแบบ ATO จะใช้งานได้เมื่อตลาดหุ้นเตรียมเปิด (Pre-Open) ในช่วงเช้าและบ่าย

*คำสั่งนี้เราจะไม่สามารถใส่ราคาได้

หากเลือกซื้อด้วยคำสั่งนี้ในช่วงตลาดหุ้นเตรียมเปิด เมื่อเปิดแล้ว เราจะได้รับหุ้นที่ราคาที่จะมีการซื้อขายสูงสุด (มีการ Match เยอะสุด) หรือ ราคาเปิดนั่นเอง (Project Open)

ในกรณีขายก็เช่นเดียวกัน เราจะขายหุ้นออกไปที่ราคาเปิดครับ

การใช้งาน ATO สำหรับผมคือในตอนที่ผมอยากได้หรืออยากซื้อหุ้นตัวนั้นในตอนเปิดตลาด เช่นแย่งซื้อหุ้น IPO ที่มักจะเพิ่มขึ้นเร็วมาก ๆ จนตั้งซื้อไม่ทัน

ในกรณีขายจะเป็นในตอนที่ผมรีบระบายของเพราะกลัวหุ้นจะตกหลังเปิดตลาดครับ

ATC

ชนิดคำสั่งซื้อขายแบบ ATC จะใช้งานได้เมื่อตลาดหุ้นเตรียมปิด (Call Market) ในช่วงเย็นครับ

*คำสั่งนี้เราจะไม่สามารถใส่ราคาได้

การเลือกซื้อขายด้วยคำสั่งนี้จะคล้าย ๆ กับ ATO ครับ แต่เปลี่ยนจากก่อนเปิดเป็นก่อนปิด หรือก็คือเราจะได้หุ้น หรือ ขายหุ้นออกไปที่ราคาปิดของวันครับ

การซื้อที่ ATC เหมาะสำหรับการซื้อหุ้นที่ไม่มั่นใจว่าหุ้นจะถูกกว่านี้ได้อีกหรือเปล่าในตอนจบวัน เราก็ตั้ง ATC ทิ้งไว้เพื่อให้ซื้อตอนปิดตลาดแทน เผื่อจะได้ราคาถูกกว่านี้

ในกรณีขายจะเป็นในตอนที่คิดว่าราคาปิดจะออกมาสูงกว่าราคาตอนนี้ครับ (เช่นหุ้นที่ก่อนปิดมีการซื้อเยอะ ๆ)

MP

ชนิดคำสั่งซื้อขายแบบ MP เป็นคำสั่งที่จะไปตั้งราคาที่ฝั่งตรงข้ามแถวแรกให้เรา เพื่อที่คำสั่งจะได้ Match ทันที และ หากเกิดจำนวนหุ้น (Volume) ไม่พอ เศษที่เหลือจะไปตั้งที่ราคาในช่องถัดไปเรื่อย ๆ จนครบครับ

*คำสั่งนี้เราจะไม่สามารถใส่ราคาได้

การขายหุ้นแบบ MP เหมาะกับการรีบ Cut Lost ในกรณีที่หุ้นราคาตกเร็วมาก ๆ จนตั้งขายที่ราคาที่ต้องการไม่ทัน

การซื้อหุ้นแบบ MP เหมาะกับการแย่งซื้อหุ้นที่คนสนใจพร้อมกันเยอะ ๆ เช่นหุ้น IPO ครับ

ยกตัวอย่างกรณีที่ 1: ขาย MP

หุ้น A มี Bid อยู่ที่

BidVolume
110 บาท300 หุ้น
109 บาท200 หุ้น
108 บาท400 หุ้น

หากเราส่งคำสั่งขายแบบ MP 600 หุ้น เราจะขายหุ้น A ที่ 110 บาท 300 หุ้น, 109 บาท 200 หุ้น, 108 บาท 100 หุ้นครับ

ยกตัวอย่างกรณีที่ 2: ซื้อ MP

หุ้น B มี Offer อยู่ที่

OfferVolume
110 บาท300 หุ้น
111 บาท200 หุ้น
112 บาท400 หุ้น

หากเราส่งคำสั่งซื้อแบบ MP 600 หุ้น เราจะซื้อหุ้น B ที่ 110 บาท 300 หุ้น, 111 บาท 200 หุ้น, 112 บาท 100 หุ้นครับ

MP-MKT

ชนิดคำสั่งซื้อขายแบบ MP-MKT จะเหมือนกับ MP ยกเว้นหากจำนวนหุ้นไม่ครบจะยกเลิกเศษที่เหลือทิ้งไป

*คำสั่งนี้เราจะไม่สามารถใส่ราคาได้

จากตารางตัวอย่างข้อ 1 หากส่งคำสั่งขายหุ้น A แบบ MP-MKT 600 หุ้น ระบบจะขายหุ้น A ให้เราที่ราคา 110 บาท 300 หุ้น เท่านั้น

ส่วนตัวผมว่าการใช้งานไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ ยังหาเหตุผลที่จะใช้ไม่เจอครับ

MP-MTL

ชนิดคำสั่งซื้อขายแบบ MP-MTL จะเหมือนกับ MP ยกเว้นหากจำนวนหุ้นไม่ครบจะไปตั้งรอทำรายการต่อที่ราคาเดียวกันให้เรา

*คำสั่งนี้เราจะไม่สามารถใส่ราคาได้

จากตารางตัวอย่างข้อ 1 หากส่งคำสั่งขายหุ้น A แบบ MP-MKT 600 หุ้น ระบบจะขายหุ้น A ให้เราที่ราคา 110 บาท 300 หุ้น จากนั้นจะไปตั้งขายรอที่ราคา 110 อีก 300 หุ้นให้เรา

ชนิดคำสั่งนี้ใช้ในเวลาที่ต้องการซื้อขายหุ้นที่ราคา ณ ตอนนี้ ให้ครบตามจำนวนที่อยากได้ ถ้าใช้ชนิดคำสั่งแบบ Limit จะต้องเสียเวลามาตั้งใหม่เรื่อย ๆ

 

Happy Investing ครับ