ชนิดคำสั่งซื้อขายต่าง ๆ (Limit, ATO, ATC, MP, MP-MKT, MP-MTL) ในโปรแกรมซื้อขายหุ้น Streaming
โปรแกรม Streaming
เป็นโปรแกรมพื้นฐานสำหรับทำการซื้อขายหุ้นด้วยตัวเอง แต่ถึงจะบอกว่าพื้นฐาน ก็ถือว่าเข้าใจยากสำหรับผู้เริ่มใช้งาน (อาจจะเป็นแค่ผมก็ได้ 555) หลาย ๆ บทความก็อ่านแล้วมึน ๆ โดยเฉพาะชนิดคำสั่งซื้อขาย (Order Type) วันนี้ผมเลยจะมาจดสรุปความหมายและวิธีใช้งานในแบบของผมให้อ่านกันครับ
ในหน้าต่าง Buy/Sell
ตรงข้าง ๆ ช่อง Price
จะมีตัวเลือกชนิดคำสั่งซื้อขายอยู่ ซึ่งค่าเริ่มต้นจะเป็น Limit
เราสามารถกดเพื่อเปลี่ยนชนิดได้
Limit
ชนิดคำสั่งซื้อขายแบบ Limit
จะทำงานคู่กับช่องราคา ( เรากำหนดราคาเอง)
หากเราใส่ราคา 100 บาท ในช่อง Price
และ เลือกแบบ Limit
ระบบจะไปตั้งคำสั่งรอซื้อขายที่ราคานั้นให้เรา
คำสั่งจะ Match ถ้า
- ราคา Bid แถวแรกเท่ากับ 100 บาท (สำหรับการซื้อ) หรือ ราคา Offer แถวแรกเท่ากับ 100 บาท (สำหรับการขาย)
- เมื่อถึงคิวเรา (บางทีราคาเท่ากับที่เราตั้งไว้แต่ไม่ Match ซักที ก็เพราะระบบยังมาไม่ถึงคิวเราครับ)
หากไม่ Match จนตลาดปิด ระบบจะยกเลิกคำสั่งให้เราโดยอัตโนมัติครับ
ATO
ชนิดคำสั่งซื้อขายแบบ ATO
จะใช้งานได้เมื่อตลาดหุ้นเตรียมเปิด (Pre-Open) ในช่วงเช้าและบ่าย
*คำสั่งนี้เราจะไม่สามารถใส่ราคาได้
หากเลือกซื้อด้วยคำสั่งนี้ในช่วงตลาดหุ้นเตรียมเปิด เมื่อเปิดแล้ว เราจะได้รับหุ้นที่ราคาที่จะมีการซื้อขายสูงสุด (มีการ Match เยอะสุด) หรือ ราคาเปิดนั่นเอง (Project Open)
ในกรณีขายก็เช่นเดียวกัน เราจะขายหุ้นออกไปที่ราคาเปิดครับ
การใช้งาน ATO
สำหรับผมคือในตอนที่ผมอยากได้หรืออยากซื้อหุ้นตัวนั้นในตอนเปิดตลาด เช่นแย่งซื้อหุ้น IPO ที่มักจะเพิ่มขึ้นเร็วมาก ๆ จนตั้งซื้อไม่ทัน
ในกรณีขายจะเป็นในตอนที่ผมรีบระบายของเพราะกลัวหุ้นจะตกหลังเปิดตลาดครับ
ATC
ชนิดคำสั่งซื้อขายแบบ ATC
จะใช้งานได้เมื่อตลาดหุ้นเตรียมปิด (Call Market) ในช่วงเย็นครับ
*คำสั่งนี้เราจะไม่สามารถใส่ราคาได้
การเลือกซื้อขายด้วยคำสั่งนี้จะคล้าย ๆ กับ ATO
ครับ แต่เปลี่ยนจากก่อนเปิดเป็นก่อนปิด หรือก็คือเราจะได้หุ้น หรือ ขายหุ้นออกไปที่ราคาปิดของวันครับ
การซื้อที่ ATC
เหมาะสำหรับการซื้อหุ้นที่ไม่มั่นใจว่าหุ้นจะถูกกว่านี้ได้อีกหรือเปล่าในตอนจบวัน เราก็ตั้ง ATC
ทิ้งไว้เพื่อให้ซื้อตอนปิดตลาดแทน เผื่อจะได้ราคาถูกกว่านี้
ในกรณีขายจะเป็นในตอนที่คิดว่าราคาปิดจะออกมาสูงกว่าราคาตอนนี้ครับ (เช่นหุ้นที่ก่อนปิดมีการซื้อเยอะ ๆ)
MP
ชนิดคำสั่งซื้อขายแบบ MP
เป็นคำสั่งที่จะไปตั้งราคาที่ฝั่งตรงข้ามแถวแรกให้เรา เพื่อที่คำสั่งจะได้ Match ทันที และ หากเกิดจำนวนหุ้น (Volume) ไม่พอ เศษที่เหลือจะไปตั้งที่ราคาในช่องถัดไปเรื่อย ๆ จนครบครับ
*คำสั่งนี้เราจะไม่สามารถใส่ราคาได้
การขายหุ้นแบบ MP
เหมาะกับการรีบ Cut Lost ในกรณีที่หุ้นราคาตกเร็วมาก ๆ จนตั้งขายที่ราคาที่ต้องการไม่ทัน
การซื้อหุ้นแบบ MP
เหมาะกับการแย่งซื้อหุ้นที่คนสนใจพร้อมกันเยอะ ๆ เช่นหุ้น IPO ครับ
ยกตัวอย่างกรณีที่ 1: ขาย MP
หุ้น A มี Bid อยู่ที่
Bid | Volume |
---|---|
110 บาท | 300 หุ้น |
109 บาท | 200 หุ้น |
108 บาท | 400 หุ้น |
หากเราส่งคำสั่งขายแบบ MP
600 หุ้น เราจะขายหุ้น A ที่ 110 บาท 300 หุ้น, 109 บาท 200 หุ้น, 108 บาท 100 หุ้นครับ
ยกตัวอย่างกรณีที่ 2: ซื้อ MP
หุ้น B มี Offer อยู่ที่
Offer | Volume |
---|---|
110 บาท | 300 หุ้น |
111 บาท | 200 หุ้น |
112 บาท | 400 หุ้น |
หากเราส่งคำสั่งซื้อแบบ MP
600 หุ้น เราจะซื้อหุ้น B ที่ 110 บาท 300 หุ้น, 111 บาท 200 หุ้น, 112 บาท 100 หุ้นครับ
MP-MKT
ชนิดคำสั่งซื้อขายแบบ MP-MKT
จะเหมือนกับ MP
ยกเว้นหากจำนวนหุ้นไม่ครบจะยกเลิกเศษที่เหลือทิ้งไป
*คำสั่งนี้เราจะไม่สามารถใส่ราคาได้
จากตารางตัวอย่างข้อ 1 หากส่งคำสั่งขายหุ้น A แบบ MP-MKT
600 หุ้น ระบบจะขายหุ้น A ให้เราที่ราคา 110 บาท 300 หุ้น เท่านั้น
ส่วนตัวผมว่าการใช้งานไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ ยังหาเหตุผลที่จะใช้ไม่เจอครับ
MP-MTL
ชนิดคำสั่งซื้อขายแบบ MP-MTL
จะเหมือนกับ MP
ยกเว้นหากจำนวนหุ้นไม่ครบจะไปตั้งรอทำรายการต่อที่ราคาเดียวกันให้เรา
*คำสั่งนี้เราจะไม่สามารถใส่ราคาได้
จากตารางตัวอย่างข้อ 1 หากส่งคำสั่งขายหุ้น A แบบ MP-MKT
600 หุ้น ระบบจะขายหุ้น A ให้เราที่ราคา 110 บาท 300 หุ้น จากนั้นจะไปตั้งขายรอที่ราคา 110 อีก 300 หุ้นให้เรา
ชนิดคำสั่งนี้ใช้ในเวลาที่ต้องการซื้อขายหุ้นที่ราคา ณ ตอนนี้ ให้ครบตามจำนวนที่อยากได้ ถ้าใช้ชนิดคำสั่งแบบ Limit
จะต้องเสียเวลามาตั้งใหม่เรื่อย ๆ
Happy Investing ครับ